ข้าวหอมปทุม หนึ่งในข้าวที่เรานิยมรับประทานมากที่สุด ด้วยลักษณะที่นุ่ม หอม คล้ายข้าวหอมมะลิเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในครัวเรือน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับข้าวหอมปทุมกันให้มากขึ้น พร้อมทั้งสำรวจคุณประโยชน์ของข้าวหอมปทุมและราคาปัจจุบันของข้าวชนิดนี้กันค่ะ
ข้าวหอมปทุม คือ?
ข้าวหอมปทุม หรือ ข้าวหอมปทุมธานี 1 เป็นข้าวหอมพันธุ์ใหม่ของไทยที่ได้รับการปรับปรุง คิดค้น พัฒนาพันธุ์มาโดยตลอดจนประสบความสำเร็จในที่สุด ปทุมธานี 1 (Pathum Thani 1)
ข้าวหอมปทุมจะมีความนุ่มและมีกลิ่นหอมคล้ายข้าวหอมมะลิ โดยเฉพาะข้าวใหม่ช่วงต้นฤดูจะมีกลิ่นหอมมากเป็นพิเศษ สามารถปลูกได้ในท้องนาทั่วไป เป็นทางเลือกใหม่ของคนที่ชอบการรับประทานข้าวที่มีความนุ่มและหอมในแบบคุ้มค่าคุ้มราคา
ข้าวหอมปทุมเป็นข้าวที่ได้มาจากการผสมพันธุ์ระหว่างข้าวสายพันธุ์ BKNA6-183-2 (พันธุ์แม่) กับสายพันธุ์ PTT8506-3-21 ที่ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี เมื่อฤดูนาปรัง ปี 2553 จากนั้นก็ได้รับการพัฒนาเรื่อยมา ดังนี้
- พ.ศ. 2533-2540 เปรียบเทียบผลผลิตในสถานีและระหว่างสถานี
- พ.ศ. 2539-2540 วิเคราะห์คุณภาพทางกายภาพและเคมี ทดสอบความต้านทานโรคแมลง ศัตรูที่สำคัญ
- พ.ศ. 2540-2541 เปรียบเทียบคุณผลผลิตในนาราษฎร ทดสอบเสถียรภาพการให้ผลผลิต
- พ.ศ. 2541-2542 ขยายพันธุ์เป็นพันธุ์หลัก
จากนั้นเมื่อได้รับการขยายพันธุ์จนกลายเป็นข้าวสายพันธุ์หลักแล้ว กรมวิชาการเกษตรจึงได้พิจารณาให้เป็นพันธุ์รับรอง โดยให้ชื่อ “ข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1” หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าข้าวหอมปทุมนั่นเอง
ลักษณะของข้าวหอมปทุม
- เป็นข้าวเจ้าหอม ต้นข้าวสูงประมาณ 104-133 เซนติเมตร
- เป็นพันธุ์ข้าวที่ไม่ไวต่อช่วงแสง สามารถปลูกได้ตลอดปี
- มีอายุเก็บเกี่ยว ประมาณ 104-126 วัน
- ทรงกอตั้ง ใบสีเขียวมีขนกาบใบและปล้องสีเขียว ใบธงยาว ทำมุม 45 องศากับลำต้น รวงอยู่ใต้ใบธง
- เมล็ดข้าวเปลือกสีฟาง มีขน ส่วนมากมีหางสั้น
- ระยะพักตัวของเมล็ดประมาณ 3-4 สัปดาห์
- สามารถต้านเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ สามารถต้านเพลี้ยกระโดดหลังขาวได้
- สามารถต้านโรคไหม้ สามารถต้านโรคขอบใบแห้ง
- คุณภาพข้าวสุก นุ่มเหนียว มีกลิ่นหอมคล้ายข้าวหอมมะลิ
ราคาข้าวหอมปทุม
ราคาข้าวหอมปทุมนั้น ก็จะเหมือนกับสินค้าอื่นๆ คือ จะขึ้นอยู่กับดีมานด์และซัพพลาย ถ้ามีความต้องการซื้อมาก และ ปีนั้น เกิดภาวะแล้ง ผลผลิตก็จะน้อย ราคาข้าวหอมปทุมก็จะสูง ซึ่งกลับกัน ถ้าปีนั้นผลผลิตมีมาก ก็จะทำให้ราคาข้าวหอมปทุมตกต่ำ
ปัจจุบันราคาข้าวหอมปทุมที่ขายอยู่ตามท้องตลาด ก็จะอยู่ที่ประมาณ กิโลกรัมละ 25 บาท หรือ ถ้าเป็นข้าวถุง 5 กิโล ก็จะอยู่ที่ 130 – 150 บาท
วิธีทำนาข้าวหอมปทุม
ประโยชน์ของข้าวหอมปทุม
ข้าวหอมปทุมมีคุณสมบัติคล้ายข้าวหอมมะลิ ทำให้คุณค่าและคุณประโยชน์ที่เราได้รับมีความคล้ายคลึงกัน โดยข้าวหอมปทุมมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึง 71-77% รองลงมาคือโปรตีน 5-8% มีส่วนช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 1 ช่วยป้องกันโรคเหน็บชาและวิตามินบี 2 ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอกได้อีกด้วย
ข้าวหอมปทุมอุดมไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ ช่วยป้องกันอาการท้องผูก มีธาตุเหล็กช่วยป้องกันโรคโลหิตจางและบำรุงเลือด นอกจากนี้ยังมีไนอะซีนที่ช่วยรักษาผิวหนังและระบบประสาทอีกด้วย
ประโยชน์อื่นของข้าวหอมปทุม
1. ประโยชน์ของข้าวหอมปทุม : ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
เนื่องจากในข้าวหอมปทุมมีสารตัวหนึ่งชื่อว่า Gamma –Orzanol ซึ่งสารตัวนี้มีคุณสมบัติในการช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด จึงมีผลทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตของเราทำงานได้อย่างเป็นปกติ เลือดจึงสามารถไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี ทำให้อวัยวะสำคัญของร่างกายอย่าง หัวใจ ตับ ไต มีเลือดไปเลี้ยงเพียงพอ
2. ประโยชน์ของข้าวหอมปทุม : ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรค
ข้าวหอมปทุมมีส่วนช่วยลดอัตราความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ และโรคความจำเสื่อม เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารและไขมันชนิดดีต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดไขมันเลวที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราอีกด้วย
3. ประโยชน์ของข้าวหอมปทุม : ช่วยลดระดับไขมัน LDL
ข้าวหอมปทุมมีส่วนในการช่วยลดระดับไขมัน LDL ซึ่งคอเลสเตอรอลชนิดนี้ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายของ ดังนั้นเมื่อเรารับประทานข้าวหอมปทุมเข้าไป ระดับ แอล ดี แอล คอเลสเตอรอลก็จะลดลง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
4. ประโยชน์ของข้าวหอมปทุม : ช่วยเพิ่มระดับไขมัน HDL
ข้าวหอมปทุมมีส่วนในการช่วยเพิ่มระดับไขมัน HDL ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีต่อร่างกาย เมื่อเรารับประทานข้าวหอมปทุมเข้าไป ระดับ เอช ดี แอลคอเลสเตอรอลก็จะเพิ่มมากขึ้น และร่างกายของเราก็จะได้รับประโยชน์จากคอเลสเตอรอลชนิดนี้ในปริมาณที่พอดี ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
5. ประโยชน์ของข้าวหอมปทุม : อุดมไปด้วยโอเมก้า 3
ข้าวหอมปทุมมีโอเมก้า 3 เช่นเดียวกับอาหารทะเล ดังนั้นเมื่อเรารับประทานข้าวหอมปทุมเข้าไป จึงช่วยบำรุงสมอง ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะความจำเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์รวมถึงโรคอัมพฤตอีกด้วย
6. ประโยชน์ของข้าวหอมปทุม : ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
เนื่องจากในข้าวหอมปทุมมีวิตามินอีในรูปของโทโคเฟอรอล และโทโคไทรอีนอล ซึ่งสารทั้งสองตัวนี้ช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ และทำให้ร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ ได้ดี ดังนั้นร่างกายของเราจึงแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้จะรักษาได้ผลดีมากหากรับประทานข้าวหอมปทุม
7. ประโยชน์ของข้าวหอมปทุม : ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สุขภาพดี
สารที่ชื่อ “เซราไมด์” ในข้าวหอมปทุมมีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้นุ่มนวลอ่อนเยาว์ ลบเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นแห่งวัย ลดจุดด่างดำ ฝ้า และกระ ทำให้ผิวพรรณแข็งแรง สุขภาพดี
ข้าวหอมปทุมเป็นข้าวไทยพันธุ์ใหม่ที่มีทั้งประโยชน์ต่อสุขภาพ และเมื่อนำไปรับประทานยังมีทุ่งความหอม นุ่ม อร่อย ไม่ต่างจากข้างหอมมะลิแต่มีราคาคุ้มค่า เป็นอีกทางเลือกของผู้บริโภคอย่างเราค่ะ
อ่านเพิ่มเติม>>> เปิดร้านขายข้าวสาร หารายได้ง่ายๆ แบบที่คุณก็ทำได้
อ่านเพิ่มเติม>>> ราคาข้าวสาร ขายปลีก-ราคาส่ง วันนี้ (อัพเดทล่าสุด)
อ่านเพิ่มเติม>>> ราคาข้าวหอมมะลิวันนี้ (อัพเดทล่าสุด)
อ่านเพิ่มเติม>>> ราคาข้าวเหนียว ขายส่ง-ขายปลีก (อัพเดทล่าสุด)
อ่านเพิ่มเติม>>> ราคาข้าวสาร 5 กก./ 15 กก. (1ถัง)/ ข้าวสารกิโลละ (อัพเดทล่าสุด)