เปิดร้านขายข้าวสาร อยากเปิดร้านขายข้าวสาร แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง!!! จะเลือกข้าวสารตัวไหนไปจำหน่ายดี…….เรามีคำตอบค่ะ ติดต่อสอบถามเบื้องต้นผ่านทาง LINE ข้างล่างนะคะ
เปิดร้านขายข้าวสาร เริ่มธุรกิจกับเรา…ดีอย่างไร?
- เรามีประสบการณ์การขายข้าวสารกว่า 60 ปี ที่จะช่วยตอบคำถามคุณได้
- ข้าวสารมากมายกว่า 50 รายการ มาที่เดียวก็ซื้อสินค้าได้ครบ ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องข้าว
- ข้าวสารราคาย่อมเยาได้มาตรฐาน ซื้อกี่ครั้งก็คุณภาพเหมือนเดิม ราคาเท่ากันทุกสาขา
- มีพนักงานคอยให้คำแนะนำ ตอบปัญหาข้อสงสัยในการขายข้าวสาร
- มีหลายสาขาตั้งอยู่บนทำเลที่สะดวก ที่จอดรถสะดวกสบาย ใกล้ที่ไหนก็สามารถไปซื้อที่นั่นได้
- มีช่องทางการชำระเงินที่สะดวกสบาย จ่ายเงินสด โอนผ่านธนาคาร หรือจ่ายผ่านบัตรเครดิต
- มีบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้านคุณ
เปิดร้านขายข้าวสารกำไรดีไหม
ในการขายปลีกโดยทั่วไป เปิดร้านขายข้าวสารกำไรอยู่ที่ประมาณ 10-15% ถ้าคุณตักขายข้าวสารหน้าร้าน กำไรจะอยู่ที่ประมาณกิโลละ 5-7 บาท
แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ในการขาย การตั้งราคา คู่แข่ง จำนวนร้านค้าที่มีอยู่ในละแวกนั้นด้วย
แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ผู้ขายต้องมีต้นทุนที่ต่ำเสียก่อน
การมีต้นทุนที่ต่ำในที่นี่หมายความว่า ลูกค้าซื้อข้าวสารในคุณภาพที่ดี สมเหตุสมผล ซื้อครั้งแรกเป็นอย่างไร ครั้งต่อไปก็ได้ข้าวสารคุณภาพเดิม
ส่วนหากคุณขายเป็นถุงโดยนำข้าวสารไปส่งให้ถึงร้านลูกค้า คุณก็อาจจะกำไรประมาณ 200-300 อาจมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับชนิดข้าว จำนวนสินค้า ลักษณะการชำระเงิน(เงินสดหรือเงินติด) และคู่แข่งค่ะ
เปิดร้านขายข้าวสารดีกว่าขายสินค้าอื่นอย่างไร
เปิดร้านขายข้าวสารดีกว่าตรงที่ ข้าวสารเป็นสินค้าที่คนมีความต้องการซื้อและจำเป็นต้องซื้อสูง นอกจากข้าวสารจะเป็นสินค้าจำเป็นที่คนไทยบริโภคสูงแล้ว ข้าวยังเป็นสินค้าที่ไม่เน่า ไม่เสีย เก็บไว้ได้นาน บริโภคแล้วหมดไป ซื้อแล้วต้องซื้อซ้ำอีก
รู้หรือไม่ว่า ปี 2562 ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 70 ล้านคน* ทุกวันคนไทยบริโภคข้าวเฉลี่ยคนละประมาณ 3 ขีด หมายความว่าคนไทยทั้งประเทศบริโภคข้าว 21 ล้านกิโลกรัมต่อวัน
แล้วคนไทยทุกคนไม่ว่าจะยากดีมีจน อย่างไรก็ต้องทานข้าว ทานตั้งแต่เกิดจนตาย กับข้าวในจานเหลือได้แต่ข้าวห้ามเหลือ
แล้วยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี คนรัดเข็มขัดกันมากขึ้น คนจะยิ่งบริโภคข้าวกันมากขึ้นด้วย เพราะข้าวทานแล้วอิ่มท้อง ทานบ่ายก็อิ่มไปถึงเย็น
ลงทุนเปิดร้านขายข้าวสาร
มีทุนน้อยขายข้าวสารได้หรือเปล่า?… มีทุนน้อยก็ขายข้าวสารได้ คอนเฟริ์มค่ะ
ไม่ยากเพียงมีเงินทุนเริ่มต้นประมาณหลักพันเพื่อซื้อข้าวสาร กิโลชั่ง ถุงพลาสติกใส่ข้าว ก็สามารถเริ่มธุรกิจข้าวสารง่ายๆได้แล้วค่ะ
และจริงๆแล้วการขายข้าวสารนั้นขายได้หลายวิธีมากๆ เริ่มแรกนั้นหากยังเกิดความไม่แน่ใจ ก็ไม่จำเป็นต้องเช่าหน้าร้านเพื่อเปิดร้านก็ได้
เราสามารถเดินสอบถามพ่อค้า แม่ค้า โรงเรียน โรงแรม โรงอาหาร ที่ไหนก็ได้ที่มีคนทานข้าว ดูว่าเขาใช้ข้าวสารลักษณะไหน แล้วทำการเสนอราคา ถ้าของถูกกว่า ดีกว่าเป็นใครก็ต้องเปลี่ยนใจ
ขอยกตัวอย่างลูกค้าคนหนึ่งของโกดัง เขาเดินเข้ามาในโกดังแบบไม่รู้เรื่องข้าวสารเลย เขาเข้ามาสอบถาม แล้วซื้อข้าวสารไป 2 ถุง แล้วนำไปลองเสนอพ่อค้าที่ขายข้าวแกงที่อยู่ในตลาด หลังจากนั้นเขาก็กลับมาซื้อข้าวกับทางโกดังอีกเรื่อยๆ จากวันแรกซื้อ2 ถุง ทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้ซื้อข้าวสารไปส่งลูกค้าวันละ 30 ถุงแล้วค่ะ เห็นไหมคะไม่ต้องใช้ทุนเยอะ ขอแค่ใจที่พร้อมจะทุ่มเท และความขยันขันแข็งเท่านั้นเอง
สถานที่ในการเปิดร้านขายข้าวสาร
ในการเปิดร้านขายข้าวสาร ทำเลที่ตั้งถ้าให้ดีควรจะตั้งอยู่ในที่ที่เป็นแหล่งชุมชน ตลาด
แต่ทั้งนี้หากเรามีบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านที่สามารถขายของได้ก็ใช้ได้เหมือนกัน ค่าเช่าก็ไม่เสีย
ซึ่งลักษณะนี้เราก็ไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือจำนวนลูกค้าและจำนวนคู่แข่ง ว่าแถวนั้นมีมากน้อยเพียงใด
หรืออาจจดออร์เดอร์ลูกค้าแล้ววิ่งมารับสินค้าไปส่ง เพียงแค่นี้เราก็สามารถเริ่มธุรกิจขายข้าวสารหารายได้เข้าบ้านได้แล้ว
เริ่มต้นเปิดร้านขายข้าวสารอย่างไรดี
เป็นโชคดีของเราที่คนไทยบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก เพราะฉะนั้นลูกค้าของคุณก็คือคนทุกคนทีกินข้าว ในการขายข้าวสารคุณอาจเลือกที่จะเปิดร้านขาย หรือ วิ่งหาลูกค้าแล้วส่งตามที่เขาสั่ง หรือจะทำทั้งสองอย่างก็ได้
1. เปิดหน้าร้านขายข้าวสาร
คือ การรอลูกค้ามาซื้อ ข้อดีคือ เก็บเงินสด ไม่เหนื่อยวิ่งหาลูกค้า แต่ต้องลงทุนก่อน
สมมุติว่าลูกค้ามีทุน 1 หมื่นบาท จะสามารถซื้อข้าวสารได้ประมาณ 10 ถุง ข้าวสาร 10 ถุง
ถามว่า เปิดร้านได้ไหม? เปิดได้ค่ะ แต่ร้านจะดูโล่งๆ ซึ่งถ้ามีข้าวสารมากกว่านี้ ร้านก็จะดูเต็มและดูน่าซื้อกว่าค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทุนของแต่ละคนด้วย
และหลังจากนั้น เราก็ต้องพยายามโปรโมทร้านค้า ไม่ว่าจะโดยการติดป้าย หรือบอกคนรู้จัก เพื่อนบ้าน ในละแวกบ้านหรือละแวกร้านให้เกิดการบอกต่อ หรือ เราอาจจะวิ่งหาออเดอร์เองตามบ้าน มีบริการส่งสินค้าสั่งขั้นต่ำ1 ถัง ส่งฟรีก็ได้
มีเทคนิคหรือวิธีการอย่างไรบ้างในการดึงดูดลูกค้า
การที่ร้านขายข้าวสารของคุณจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้นั้น
1.ร้านขายข้าวสาร ต้องมีสินค้าที่หลายหลาย
ควรมีทั้งข้าวหอมมะลิเก่า หอมมะลิใหม่ ข้าวเหนียว ข้าวขาว ข้าวเพื่อสุขภาพ ปลายข้าว เพื่อที่ว่าลูกค้ามาหาซื้อสินค้าลักษณะไหนคุณก็มี อ่านเพิ่มเติม>>> ข้าวมีกี่ชนิด?
2. การจัดวางที่เป็นระเบียบ
มีการวางสินค้าแบบมีเลเยอร์สูงต่ำ มีป้ายสินค้า บอกลักษณะและราคาของสินค้าอย่างชัดเจน จะทำให้ร้านขายข้าวสารของเราดูน่าเข้ามาซื้อ
3.ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญมาก
ร้านขายข้าวสารที่โปร่ง โล่ง จัดวางสินค้าอย่างเป็นระเบียบ จะแลดูสะอาดกว่าร้านที่วางสินค้าหลายๆอย่างและจัดไม่เป็นสัดส่วน ถึงแม้ว่าสินค้าจะเหมือนกัน แต่ร้านที่ดูสะอาดและเป็นระเบียบกว่ามักจะขายได้ดีกว่า เพราะจะทำให้ลูกค้ามั่นใจในตัวสินค้า อ่านเพิ่มเติมที่ คุณกำลังเก็บข้าวผิดอยู่หรือไม่
4.ใจที่รักการบริการ (สำคัญที่สุด!)
สนใจในความต้องการของลูกค้า ตั้งใจตอบคำถาม พูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะและรอยยิ้มที่จริงใจเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้นะคะ
2. รับออร์เดอร์
คือ การวิ่งหาลูกค้าเอง ข้อดีคือ ไม่ต้องลงทุน รอมีออเดอร์แล้วค่อยเอาสินค้าไปส่ง แต่ลูกค้ามักขอเครดิต ต้องพิจารณาว่าสามารถเก็บเงินได้หรือเปล่า ต้องหาคนงานแบกข้าวส่งตามร้านลูกค้า หรืออาจทำเองก็ได้ค่ะ
อาจเริ่มจากการเข้าไปคุยกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม โรงเรียน โรงงาน ร้านอาหาร ว่าใช้ข้าวสารแบบไหน ข้าวหอมมะลิเก่า ข้าวหอมมะลิใหม่ ข้าวขาว ข้าวเหนียว เกรดไหน ราคาประมาณเท่าไหร่ ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าเราควรจะเสนอสินค้าแบบไหนให้เค้า ซึ่งทางนั้นจะเปลี่ยนมาใช้ของเราก็ต่อเมื่อ เราดีกว่า หรือ ถูกกว่า (ซึ่งสินค้าของทางโกดังร้อยทั้งร้อยจะถูกกว่าอยู่แล้ว) ถ้าจะยิ่งดีเลยคือ ขอตัวอย่างข้าวสารทางนั้นมาเลย และให้ทางโกดังช่วยดู เราจะสามารถแนะนำสินค้าที่ใกล้เคียงให้ได้ค่ะ
ปัญหาในการขายข้าวสาร
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าข้าวสารเป็นสินค้าเกษตร ผลผลิตออกกันปีละครั้ง หากเป็นข้าวนาปี หรือ อาจจะ 4 ครั้งต่อปี หากเป็นข้าวนาปรัง
เพราะฉะนั้น ในช่วงระหว่างรอยต่อของปีหรือฤดูกาลจะเป็นช่วงเวลาที่ข้าวเปลี่ยนแปลง คือ มีทั้งข้าวเก่า และ ข้าวใหม่ หมุนเวียนตามฤดูกาล เราผู้เป็นคนขายก็ควรจะอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจได้
อย่างไรก็ตาม ทางโกดังได้มีระบบจัดการกับปัญหานี้โดยการสต็อคข้าวสารเอาไว้ในปริมาณที่มากพอที่จะทำให้เราผลิตข้าวสารได้ทั้งปี รวมทั้งเรามีโรงงานผลิตข้าวสารซึ่งเป็นของเราเอง ทำให้เราไม่ต้องพึ่งพาซัพพลายเออร์ที่ไหน ซึ่งจะทำให้ข้าวสารที่ท่านซื้อไป ซื้อถุงแรกเป็นอย่างไรถุงต่อไปก็เป็นอย่างนั้น
เราสามารถการันตีท่านได้ว่าไม่มีผู้ขายคนใดทำได้อย่างเรา เพราะสิ่งนี้ต้องใช้ทั้งคนที่มีประสบการณ์ (เราอยู่ในวงการนี้มากว่า 60 ปี) มีโรงงานผลิตที่ทันสมัย ใช้เงินทุนสูง มีการจัดการที่ดี และที่สำคัญคือความจริงใจที่เรามีต่อลูกค้า จริงใจ ไม่ปลอม ไม่หลอกลวง
ข้าวสารแต่ละชนิดมีตั้งหลายราคา หลายเกรด แล้วจะขายข้าวสารเกรดไหนดี
จะขายข้าวสารเกรดไหนดี ข้าวสารแต่ละชนิดมีหลายเกรดค่ะ แต่ละเกรดแตกต่างกันตรงที่ ความขาว ความสวย ความเคี่ยว ความนุ่ม ความหอม เปอร์เซ็นต์ของเมล็ดข้าว
อยากรู้รายละเอียดแบบเจาะลึก คู่มือเลือกซื้อข้าวสารง่ายๆ
อาจแต่แน่นอนว่าของแบบนี้ต้องใช้ประสบการณ์ค่ะไม่สามารถเป็นได้ในข้ามคืน
แต่เราสามารถเริ่มสะสมประสบการณ์ได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ เช่น หากท่านไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ท่านอาจเริ่มสังเกตว่าข้าวที่ท่านรับประทานอยู่เป็นข้าวอย่างไร ข้าวเก่า หรือข้าวใหม่ ข้าวพันธุ์อะไร มาจากจังหวัดไหน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ท่านอาจถามเจ้าของร้านได้
หรือเมื่อลูกค้าซื้อข้าวสารจาก U-Rice ไปจำหน่าย แนะนำเลยค่ะ ลองหุงชิมทุกตัว สังเกตดูความแตกต่างของข้าวแต่ละแบบ หุงแล้วชิมแล้วจะสามารถแนะนำได้เต็มปากเวลาขายต่อให้ลูกค้าอีกทีค่ะ อย่าลืมว่าขายข้าวสารก็เหมือนกับขายสินค้าอื่นที่ต้องให้ความใส่ใจนะคะ
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเริ่ม เราแนะนำให้คุณลองถามตัวเองก่อนว่า คุณพร้อมจะเริ่มต้น พร้อมจะสู้หรือเปล่า ถ้าพร้อมก็ลุยต่อเลยค่ะ
เคล็ดไม่ลับในการเปิดร้านขายข้าวสาร
การจะเปิดร้านขายข้าวสารให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ยากค่ะ เราขอแนะนำเคล็ดไม่ลับ ที่ทำได้ทุกคน
คาถาความสำเร็จเปิดร้านขายข้าวสาร ข้อที่1 : สู้! อดทน! ขยัน! มุมานะ!
ตอนเริ่มแรกเมื่อคุณเริ่มขาย คุณจะพบปัญหาหลายๆอย่าง เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากๆ
ถ้าคุณเจอปัญหา เจออุปสรรค แล้วคุณสู้! อดทน! ขยัน! มุมานะ!ต่อ คุณก็มีเปอร์เซ็นต์สูงว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจนี้ได้
แต่ถ้าคุณเจอปัญหาแล้วยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มแรก ก็ไม่มีอะไรให้ลุ้นต่อ
เพราะการที่คุณจะประสบความสำเร็จได้หรือเปล่านั้น มันจะอยู่ที่จุดนี้แหล่ะค่ะว่าคุณจะผ่านอุปสรรค ผ่านความลำบากในช่วงแรกได้หรือเปล่า
คาถาความสำเร็จ ข้อที่2 : ใจที่รักการบริการ สนใจในความต้องการของลูกค้า
ในทุกวงการธุรกิจ จะมีคู่แข่ง หรือ คนขายสินค้าที่เหมือนหรือคล้ายกันกับเราไม่มากก็น้อย รวมถึงวงการขายข้าวสารด้วย
การที่เราจะเอาชนะคู่แข่งได้นั้น นอกจากข้าวสารที่มีคุณภาพแล้ว การสนใจที่จะบริการลูกค้าด้วยความจริงใจนั้น สำคัญไม่แพ้กันเลย
ในโลกปัจจุบัน ลูกค้านั้นมีทางเลือกมากมาย แต่คนขายที่เข้าใจลูกค้ามากที่สุด ก็จะเป็นฝ่ายได้ใจลูกค้าไป
คาถาความสำเร็จ ข้อที่3 : ไม่ปลอมแปลงสินค้า ไม่หลอกลวง
ข้าวสารแต่ละยี่ห้อ แต่ละถุง แต่ละล๊อตเป็นอย่างไร เราควรบอกลูกค้าไปตามตรง ต้องไม่หลอกลวงขายของไม่ดีให้ลูกค้า แล้วบอกว่าเป็นของดี
โดยเฉพาะการขายข้าวสารที่เป็นสินค้าเกษตร ซึ่งบางปีน้ำท่วม บางปีน้ำแล้ง บางปีร้อนน้อย บางปีร้อนมาก ผลผลิตและราคาก็จะไม่เหมือนกัน ข้าวสารที่ได้ก็ไม่เหมือนกัน
คาถาความสำเร็จ ข้อที่4 : รู้จริงและใส่ใจในเรื่องที่ทำ
หมั่นหาความรู้เรื่องข้าวสาร ติดตามราคาข้าวสาร ก็จะสามารถทำให้เรารู้ลึก รู้จริง ในสิ่งที่เราทำได้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขายข้าวสารให้ประสบความสำเร็จเลยทีเดียว
สนใจดูสินค้านัดพูดคุยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สาขาเกษตร-นวมินทร์ (รบกวนนัดก่อนเข้านะคะ)
อ่านเพิ่มเติม>>> ข้าวมีกี่ชนิด?
อ่านเพิ่มเติม>>> วิธีเลือกซื้อข้าวสารง่ายๆ ใครๆก็ทำได้